เทคนิคการใช้กระดานข่าว - นักศึกษาเพียงแค่ใช้ browser เปิดอ่าน , เขียน , หรือตอบกระทู้ที่ต้องการ
สำหรับการดูแลจัดการกระดานข่าว, คลิกที่ 'admin'(ใต้หัวข้อกระดานข่าว) เพื่อเข้าสู่ระบบจัดการกระดานข่าว ซึ่งมีเมนูคำสั่งต่างๆดังนี้:
สร้างหมวดหมู่ > สร้างกระดานข่าว > เขียนกระทู้ > ตอบหรือลบกระทู้
การกำหนดรูปแบบของการสนทนา หรือการเปิดกระดานข่าวของท่าน เพื่อให้นักศึกษาใช้งานท่านจะต้องทำการสร้างหมวดหมู่ และสร้างกระดานข่าว ในหัวข้อที่ท่านต้องการขึ้นมาก่อน จากนั้นจึงทิ้งกระดานให้ว่างไว้ เพื่อให้นักศึกษาสามารถเข้ามาตั้งกระทู้ และพูดคุยปรึกษากันในกลุ่มได้claroline forum ได้สร้างกระดานข่าวหมวดหมู่ 'Public' เพื่อเป็นตัวอย่างสำหรับการถามตอบกระทู้
สิ่งแรกที่ควรทำคือ ทำการลบกระทู้ตัวอย่างทิ้ง และปรับปรุงแก้ไขชื่อของกระดานเสียใหม่ ท่านอาจเปิดกระดานอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกตามความเหมาะสมของบทเรียนของท่าน
แต่อย่ารวมทุกกระดานไว้ในหมวดหมู่เดียวกัน และอย่าลืมว่าหมวดหมู่ที่ไม่มีกระดานข่าวอยู่ภายใน จะไม่ถูกแสดงให้นักศึกษาเห็น
คำอธิบายของกระดานข่าวนั้นๆ จะช่วยให้นักศึกษา เกิดความเข้าใจได้ง่าย ในการเข้าร่วมใช้งาน"; $langHDropbox = "กล่องรับส่งงาน"; $langDropboxContent = "
กล่องรับส่งงาน(dropbox)เป็นเครื่องมือของการบริหารจัดการด้านการสื่อสาร การแลกเปลียน การแจกจ่ายเนื้อหาการศึกษาออนไลน์ระหว่างกัน.เป็นเหมือนกล่องรวมรับไฟล์งานของระบบ จัดเก็บ รับ จัดการ ไฟล์งานได้หลากหลายรูปแบบเช่น Word, Excel, PDF etc. สามารถบริหารจัดการกับไฟล์งานที่มีชื่อเหมอืนกันได้โดยไม่ทำลายโครงสร้างสำคัญของไฟล์เช่นการตรวจสอบชื่ไฟล์แล้วเปลี่ยนชื่อให้ใหม่เป็นต้น
ในกล่องรับส่งงานของแต่ละคนประกอบด้วยส่วนรับไฟล์และส่วนของการส่งไฟล์
หากกล่องรับส่งงานของแต่ละคนมีรายการรับ-ส่งมากเกินไป ก็สามารถลบรายการออกเฉพาะตนได้ โดยที่ไม่ได้ลบไฟล์ที่เก็บในระบบไปด้วย.
การส่งไฟล์ก็สามารถเลือกส่งไฟล์ไปพร้อมกันหลายไฟล์และหลากหลายผู้ใช้ เช่นกำหนดส่งไปให้สมาชิกในระบบรายใดๆ กลุ่มใดๆหรือเก็บไว้เป็นส่วนตัวก็ได้ และใช้รูปแบบคำสั่งง่ายไร่วมกับปุ่มแป้นพิมพ์ CTRL+click เลือกรายการ
"; $langHHome = "ระบบช่วยเหลือ 'หน้าหลักบทเรียน'"; $langHomeContent = "เพื่อความง่าย และสะดวกต่อการใช้งาน ภายในแต่ละระบบงานจะประกอบด้วยตัวอย่างเล็กๆเพื่อช่วยให้ท่านเข้าใจการทำงานของเครื่องมือนั้นๆได้อย่างรวดเร็วขึ้น ท่านสามารถที่จะลบหรือปรับปรุงตัวอย่างเหล่านี้ ได้ตามควมต้องการตัวอย่างเช่น ตรงกลางหน้าหลักของบทเรียนท่าน มีแถบข้อความสั้นๆ ข้อความว่า 'นี้คือคำนำของบทเรียนท่าน ต้องการแก้ไขข้อความ โปรดคลิกที่ปุ่ม ปรับปรุง ด้านล่าง' การแก้ไขเพื่อให้เป็นข้อความของท่านเองเพี่ยงแต่คลิกที่ข้อความ 'ปรับปรุง' และทำการแก้ไขเป็นข้อความของท่าน เสร็จแล้วคลิกปุ่ม 'ตกลง' บทนำดังกล่าวก็จะเปลี่ยนเป็นข้อความของตัวท่าน การใช้เครื่องมืออื่นๆก็เป็นลักษณะเดียวกันคือ : เพิ่ม , ลบ , ปรับปรุง ซึ่งกระบวนการเหล่านี้เป็นลักษณะเด่นของ dynamic website
เมื่อท่านเริ่มต้นสร้างบทเรียนของท่าน เครื่องมือส่วนใหญ่จะเปิดทำงาน เช่นเดียวกันหากไม่ต้องการ เพียงแต่คลิก 'ปิดการใช้งาน'ระบบงานนั้นก็จะถูกปิดลง กลายเป็นเมนูสีเทาอยู่ด้านล่างสุด ซึ่งจะไม่สามารถมองเห็นได้ในมุมมองของนักศึกษา และท่านสามารถที่จะเปิดใช้งานอีกครั้งเมื่อใดก็ได้ที่ต้องการ
ท่านสามารถที่จะเพิ่มหน้าเนื้อหา เข้าในหน้าหลักบทเรียนของท่านได้ แต่หน้าเหล่านั้นต้องเป็นรูปแบบ HTML (ซึ่งสามารถสร้างได้จาก Word Processor หรือ Web Composer ใดๆก็ได้) ใช้เมนูคำสั่ง 'ส่งข้อมูลและเชื่อมเข้ากับบทเรียน'หน้าเอกสาร HTML ที่เพิ่มเข้าไปนี้ ก็จะรวมเข้ากับบทเรียนของท่านโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าท่านต้องการเชื่อมบทเรียนของท่านเข้ากับ web site อื่นๆ ภายนอกหรือภายในคณะก็ตาม ขอให้ใช้คำสั่ง 'เพิ่ม link ในบทเรียนนี้'
หน้าเอกสารและ link ที่เพิ่มเข้าไปนี้ สามารถลบออกได้เมื่อท่านปิดการใช้งานของมันลงเสียก่อน
ตอนนี้บทเรียนของท่านพร้อมใช้งานแล้ว ขอให้เข้าไปที่ 'ปรับปรุงรายละเอียดวิชา' เพื่อตั้งค่ากำหนดการเข้าเรียนของนักศึกษาของท่าน และขอแนะนำให้เลือก 'ปิดลงทะเบียน' ไว้ก่อน (เพราะท่านกำลังดำเนินการสร้างบทเรียนของท่านอยู่) เมื่อทุกอย่างพร้อม จึงค่อยเปลี่ยนเป็นตัวเลือกอื่นตามต้องการต่อไป
"; $langHOnline = "ระบบช่วยเหลือการสัมมนาออนไลน์"; $langOnlineContent = "ระบบจัดการเอกสารประกอบการศึกษา มีลักษณะคล้าย FileManager ของคอมพิวเตอร์ทั่วไป
ท่านสามารถ upload ไฟล์ข้อมูลชนิดใดก็ได้ (HTML, Word, Powerpoint, Excel, Acrobat, Flash, Quicktime, etc.)
++แต่ให้ตั้งชื่อไฟล์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น++
และท่านควรนึกถึงโปรแกรมที่นักศึกษา ต้องใช้สำหรับเปิดเอกสารของท่านด้วย
ไฟล์ข้อมูลบางประเภท อาจมีไวรัสแฝงอยู่ ท่านไม่ควรเสี่ยงที่จะ upload ขึ้นสู่บทเรียน และเพื่อให้แน่ใจยิ่งขึ้น ควรทำการตรวจสอบไวรัสด้วยโปรแกรม antivirus ของท่านก่อนทำการ upload ทุกๆไฟล์
เอกสารของท่านจะถูกจัดเรียงตามลำดับตัวอักษร
Tip : หากท่านต้องการจัดเรียงลำดับให้แตกต่างไป ให้กำหนดเป็นตัวเลข เข่น 01, 02, 03...แทน
ท่านสามารถ :
ต้องการลบหมายเหตุ คลิกที่รูป , \t ลบหมายเหตุเก่าในช่องออก และคลิกปุ่ม \t
ท่านสามารถจัดระบบการเก็บเอกสารของท่านได้ โดย :
\t"; $langHUser = "ระบบช่วยเหลือ 'Users'"; $langHExercise = "คำชี้แจงการทำแบบฝึกหัด/แบบทดสอบ"; $langHPath = "คำแนะนำการเข้าเรียนวิชา"; $langHDescription = "คำแนะนำคำอธิบายรายวิชา"; $langHLinks = "คำแนะนำการใช้เครื่องมือสร้างการเชื่อมโยง"; $langHMycourses = "เกี่ยวกับหน้าแรก"; $langHAgenda = "คำแนะนำกำหนดการ"; $langHAnnouncements = "คำแนะนำการประกาศ"; $langHChat = "คำแนะนำการสนทนาออนไลน์"; $langHWork = "คำแนะนำสำหรับงานพิมพ์ของผู้เรียน"; $langHTracking = "คำแนะนำ การติดตามผล"; $langUserContent = "สถานะภาพ
สถานะภาพ ใช้เพื่อแสดงบทบาทของผู้นั้นว่าเป็นใครเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับสิทธิ์ในการดูแลระบบคอมพิวเตอร์นี้อย่างไร ท่านสามารถปรับเปลี่ยนได้ โดยคลิกที่ 'ปรับปรุง'ในช่องคอลัมม์หน้าที่ และพิมพ์หน้าที่ที่ท่านต้องการให้ผู้นั้นเป็นลงไป เช่น อาจารย์ , ผู้ช่วย , นักศึกษา , ผู้เยี่ยมชม , หรือผู้เชี่ยวชาญ เป็นต้น
สิทธิ์ในบทเรียน คือการอนุญาตให้แก่ผู้หนึ่งผู้ใด มีสิทธิ์ในการเข้าร่วมแก้ไข ปรับปรุงข้อมูล หรือจัดการด้านอื่นๆ เทียบเท่าเจ้าของบทเรียนนั้นๆ ท่านสามารถเลือกได้สองแบบเท่านั้น คือ ให้สิทธิ์ทั้งหมด หรือไม่ให้สิทธิ์เลย
การอนุญาตผู้ช่วย ให้เข้าร่วมในการสร้างบทเรียน ท่านต้องลงทะเบียนให้เขา หรือต้องแน่ใจว่าเขาได้ลงทะเบียนบทเรียนของท่านไว้แล้ว จากนั้น จึงคลิก 'ปรับปรุง' ที่คอลัมม์ 'สิทธิ์ในบทเรียน' และเลือก 'ทั้งหมด'
การเพิ่มชื่อผู้รับผิดชอบวิชาร่วม ที่ตำแหน่งส่วนหัวของบทเรียน ใช้เมนู 'ปรับปรุงรายละเอียดวิชา' (เมนูคำสั่งสีส้ม) และพิมพ์ชื่อเพิ่มในช่อง 'อาจารย์' แต่การใช้คำสั่งนี้ ไม่ใช่การอนุญาตสิทธิ์ในบทเรียน เช่นเดียวกับการทำในคำสั่ง 'สิทธิ์ในบทเรียน'
การเพิ่ม user ในบทเรียนของท่าน กรอกข้อมูลในช่องให้ครบ และคลิกปุ่มตกลง บุคคลนั้นจะได้รับอีเมล์ แจ้งว่าท่านได้ทำการลงทะเบียนเข้าสู่บทเรียนแก่เขาแล้ว รวมทั้งแจ้งชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านแก่เขาด้วย
"; $langGroupContent = "คำนำ
เครื่องมือนี้เพื่อสำหรับใช้สร้างกลุ่มทำงาน ในขั้นตอนการสร้าง (สร้างกลุ่มใหม่), กลุ่มจะว่างเปล่า มีหลายวิธีที่จะนำนักศึกษาเข้ากลุ่ม :
การเติมนักศึกษาเข้ากลุ่ม ไม่ว่าอย่างอัตโนมัติ หรือกำหนดเอง จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีนักศึกษาลงทะเบียนเข้าเรียนในรายวิชานั้นๆแล้วเท่านั้น(การลงทะเบียนเข้าเรียนในรายวิชา กับการลงทะเบียนเข้ากลุ่มนั้นแตกต่างกัน อย่ารวมเข้าด้วยกัน)รายชื่อนักศึกษาของท่านจะปรากฎอยู่ในเมนูเครื่องมือ Users
สร้างกลุ่มใหม่
การสร้างกลุ่มใหม่ คลิกที่ 'สร้างกลุ่มใหม่' และทำการกำหนดจำนวนของสมาชิกในกลุ่ม จำนวนสมาชิกสูงสุดสามารถกำหนดเท่าไรก็ได้ แต่ขอแนะนำให้มีจำนวนอย่างน้อยหนึ่งคน เพราะหากปล่อยช่องให้ว่างไว้ ขนาดสูงสุดของจำนวนคนในกลุ่ม จะกลายเป็นไม่มีที่สิ้นสุด
จัดระเบียบกลุ่ม
ท่านสามารถตั้งค่ากำหนดให้ครอบคลุมทุกกลุ่มที่สร้างขึ้นได้โดยกำหนดที่นักศึกษาได้รับอนุญาตให้ลงทะเบียนด้วยตัวเองได้:
ทำการสร้างกลุ่มว่างขึ้นหนึ่งกลุ่ม เพื่อให้นักศึกษาลงทะเบียนเองถ้าหากท่านกำหนดจำนวนสมาชิกสูงสุดไว้ เมื่อเต็มแล้วนักศึกษาจะไม่สามารถลงทะเบียนเข้ากลุ่มได้อีก วิธีนี้ดีสำหรับผู้สอนที่ไม่ทราบรายชื่อนักศึกษา ที่ลงทะเบียนในรายวิชานั้น ขณะทำการสร้างกลุ่มให้อยู่
เครื่องมือ:ทุกกลุ่มจะมีกระดานข่าวของกลุ่ม (ส่วนตัวหรือสาธารณะ) หรือส่วนงานเอกสารของกลุ่มเอง
การแก้ไข
เมื่อทำการสร้างกลุ่มแล้ว ท่านจะเห็นรายชื่อของกลุ่มอยู่ที่ด้านล่างของหน้า
The tests tool allows you to create tests that will contains as many questions as you like.
There are various types of answers available for the creation of your questions :
In order to create a test, click on the link \"New test\".
Type the test name, as well as an optional description of it.
You can add an audio or a video file, for listening comprehension etc. It is up to you to choose these files as light as possible so that they download easily through the web. Prefer .mp3 files to .wav file for instance, because of a better compression and then smaller file size.
You can also choose between 2 test types :
You can now add a question into the test previously created. The description is optional, as well as the picture that you have the possibility to link to your question.
In order to create a MAQ / MCQ :
This allows you to create a text with gaps. The aim is to let the user find words that you have removed from the text.
To remove a word from the text, and so to create a blank, put this word between brackets [like this].
Once the text has been typed and blanks defined, you can add a comment that will be seen by the student when it replies to the question.
Save your text, and you will enter the next step that will allow you to give a weighting to each blank. For example, if the question worths 10 points and you have 5 blanks, you can give a weighting of 2 points to each blank.
This answer type can be chosen so as to create a question where the user will have to connect elements from an unit U1 with elements from an unit U2.
It can also be used to ask the user to sort elements in a certain order.
First define the options among which the user will be able to choose the good answer. Then, define the questions which will have to be linked to one of the options previously defined. Finally, connect via the drop-down menu elements from the first unit with those of the second one.
Notice : Several elements from the first unit can point to the same element in the second unit.
Give a weighting to each correct matching, and save your answer.
In order to modify a test, the principle is the same as for the creation. Just click on the picture beside the test to modify, and follow instructions above.
In order to delete a test, click on the picture beside the test to delete it.
So as for a test to be used, you have to enable it by clicking on the picture beside the test name.
You can test your exercise by clicking on its name in the tests list.
At the time of test creation / modification, you can tell if you want questions to be drawn in a random order among all questions of the test.
By enabling this option, questions will be drawn in a different order every time users will run the test.
If you have got a big number of questions, you can also choose to randomly draw only X questions among all questions available in that exercise.
When you delete a test, its questions are not removed from the database, and they can be reused into a new test, via the questions pool.
The questions pool also allows to reuse the same question into several tests.
By default, all the questions of your course are hidden. You can show the questions related to a test, by chosing this one in the drop-down menu \"Filter\".
Orphan questions are questions that don not belong to any test.
You can import HotPotatoes tests into Chamilo portal, to this Tests tool. Results of these tests are stored the same way as Chamilo tests. You can explore the results in User Tracking. In case of single tests, we recommend to use html or htm format, if your test contains pictures, a zip file upload is the most convenient way.
Note : You can add HotPotatoes Tests as a step in the Learning Path, as well.
Method of the importWhat is a Learning Path ?
A Learning Path is a sequence of learning steps included in modules. It can be content-based (looking like a table of contents) or activities-based, looking like an agenda or a programme of what you need to do in order to understand and practice a certain knowledge or know-how.
In addition to being structured, a learning path can also be sequenced. This means that some steps will constitute pre-requisites for others ('you cannot go to step 2 before step1'). Your sequence can be suggestive (you show steps one after the other) or imperative (you add pre-requisites so that people are forced to follow the sequence).
How to create our own Learning Path ?
The first step is to arrive to Learning Path Builder section. In the Learning Path screen, there is a link to it. There you can create many paths by clicking onto Add a new learning path. But they are empty, till you add modules and steps to them.
If you make a path visible, it will appear as a new tool on the homepage of the course. This way their access is easier.
What are the steps for these paths ? (What are the items that can be added?)
All Chamilo tools, activities and contents that you consider to be useful and connected to your imagined path can be added :
Other features of Learning Path
Students can be asked to follow (read) your path in a given order, as you can set prerequisities in the path. This means that for example students cannot go to Quiz 2 till they have read Document 1. All items have a status : completed or incomplete, so the progress of students is clearly available.
If you alter the original title of a step, the new title will appear in the path, but the original title will not be deleted. So if you want test8.doc to appear as 'Final Exam' in the path, you do not have to rename the file, you can use the new title in the path. It is also useful to give new titles to links as they are too long.
When finished, do not forget to check the student view, where the table of contents appears on the left and the path steps usually appear on the right, one by one.
What is a Scorm or IMS format Learning path and how to upload (import) it?
The learning path tool allows you to upload SCORM and IMS compliant course contents.
SCORM (Sharable Content Object Reference Model) is a public standard followed by major e-Learning actors like NETg, Macromedia, Microsoft, Skillsoft, etc. and acting at three levels:
Useful links
Note :
The Learning Path section lists all the self-built Learning Paths and all uploaded Scorm format Learning Paths, as well.
"; $langDescriptionContent = "This tool will help you describe your course in a synthetic way and from the outside. It may help your future students get a clear view on what they can expect from this course. It is also an opportunity for you to rethink your course scenario.
Items are given here as proposals. If you want to create a course description with your own items, use only the 'Other' item and decide for its title.To fill the course description, select Create and edit with forms > Scrolldown menu and select the item of your choice > fill the form > Validate. You can always edit or delete the content of every item by clicking on the pencil or red cross icons.
"; $langLinksContent = "The Links tool allows you to create a library of resources for your students. Especially resoucrs that you have not created yourself.
When the list grows, it might proove relevant to organise it into categories to help your students find the right information at the right place. You can edit every link to re-assign it into a new category (you need to create this category first).
The Description field can be used to give pre-information on the target web pages but also to describe what you expect the student to do with the link. If, for instance, you point to a website on Aristotle, the description field may ask the student to study the difference between synthesis and analysis."; $langMycoursesContent = "
Once logged in into the platform, you are in your personal startpage.
In the main area (center) you see \"My course list\", a list of all your courses. Depending on your user rights you can also have the possibility to create new courses (via the right hand menu).
In the top banner you see
Edit my course list, in the right hand menu, allows you to enroll in new courses as far as the tacher or the organisation has left these courses open to enrollment. This link lets you unregister from courses too.
The links Support Forum and Documentation that point to the main Chamilo website, where you can ask technical or pedagogical questions, find more information. To enter a course (main area of your startpage), click on its name. Your profile can vary from one course to the other. It is possible that you are teacher in one course and student in another.
"; $langAgendaContent = "The agenda appears both in each course area and as a synthetic tool for the student ('My agenda' in top banner).
In the course, the agenda appears as a list of events. You can attach documents or activities to a date so that the agenda becomes a chronological programme for your learning activities.
In addition to being present in the agenda, the new events are indicated to the student when he/she logs in the next time. The system tells what has been added in the Agenda (and in the Announcements) since his/her last visit : icons appear on the portal home page besides the courses where events and announcements hve been added.
If you want to go further in the logic of structuring learning activities one after the other, we suggest that you use preferably the Learning Path that offers the same principles with more advanced features. The Learning Path can be considered as a synthesis of a Table of Contens tool + an Agenda + sequencing (imposed order) and tracking.
"; $langAnnouncementsContent = "The Announcements tool allows you to send an email to all your students or to some of them or to some groups. It can proove efficient to drive students back to your website if they do not visit it very often.
To send a message to some users and/or some groups, select 'Messages to selected users' then use CTRL+C to select more than one in the left hand menu, click on the right arrow to move them then type your message in the field below.
"; $langChatContent = "The Chat tool allows you to discuss live with your students.
This chat is not similar to usual ones, like MSNฎ or Yahoo Messengerฎ because it is web based. The disadvantage is that it refreshes only after 10 seconds and not immediately. The advantage is that it is integrated in your course,it archives your discussions into the Documents tool and it doesn't require from your students any plugin to download.
If users send their pictures in 'My e-portfolio' (top banner), then this picture will appear in the discussion to help identify who is speaking.
Only the teacher is allowed to delete the discussion when he/she finds it relevant.
Pedagogical relevance
Adding a chat to your course is not necessarily a good idea. However, if this participates to your scenario, the chat can help. You can imagine, for instance, to hide the chat always except at a certain time when you have a dedicated meeting with your students to answer their questions live. It is less a 'free' dicsussion tool this way, but you give students a guarantee that they will benefit from this live meeting.
."; $langWorkContent = "The student publications tool is a very simple one. It allows your students to upload any document in the course area.
Depending on your course scenario, you can set all files to be visible to all students by default, or only visible for you. Making all files visible is useful when for instance you want to ask students to give their opinion on each other's papers or let them learn to publish texts to the world. Keep files invisible if e.g. you ask the same question to everybody and want to avoid cheating.
This tool has an Introduction text area to allow you to write a question, detailed guidelines, a reminder of a deadline or anything else you may find relevant.
"; $langTrackingContent = "The tracking helps you follow your students : did they connect to the sytem, when, how many times? How much do they get in tests? Did they already upload their Paper? When? If you use Scorm courses, you can evn know how much time a student spent on a module or chapter. The trackinggives information at 2 levels:
Course settings allows you to manage the global parameters of your course : Title, code, language, name of teachers etc.
The options situated in the middle of the page deal with confidentiality settings : is the course public or private? Can students register to it? You can use these settigs dynamically : open registration during one week > ask your students to register > close access to registration > remove possible intruders through the Users list. This way you keep control of who is in byt you don't have the administrative hassle of registrating them yourself.
At the bottom of the page, you can Backup the course and delete it. Backup will create a file on the server and allow you to copy it on your own Hard Disk locally. So that there will be 2 backups of it in different places. If you backup a course then delete it. You will not be allowed to restore it yourself but the system administrator can do this for you if you give him/her the code of your course. Backuping a course is also a good way to get all your documents back onto your own computer. You will need a tool, like Winzipฎ to UNZIP the archive. Note that backuping a course does not remove it in any way.
"; $langHExternal = "เพิ่มรายการระบบช่วยเหลือ"; $langExternalContent = "Dokeos is a modular tool. You can hide and show tools whenever you want, according to your project or to its different chronological phases. But you can also add on your home page tools or pages that you have created yourself or that come from the outside of your Chamilo portal. This way, you will make of your course home page YOUR page.
To take possession of your page that way, you will Add links on it. These links can be of 2 types:
Educational Theory
For the professors, prepare a course on the internet is a question of Educational Theory too."; $langClarContent4 = "is at your disposal to help you during the different steps of your teaching project evolution: from tool design to its integration in a clear and coherent strategy and objective evaluation of its impact on student learning.
"; $langClarContent1 = "คือวิทยาเขตเสมือนของ"; $langClarContent2 = "ที่นี่ อาจารย์และทีมงานผู้ช่วย สามารถสร้าง และจัดการบทเรียนต่างๆได้ด้วยตนเองนักศึกษาสามารถเข้าเรียน อ่าน (เอกสารประกอบการศึกษา กำหนดการ ประกาศ และข่าวสารต่างๆ) และบางครั้ง อาจได้ทำแบบฝึกหัดส่งงานของตัวเอง หรือเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในกระดานข่าวด้วย...ลงทะเบียนหากท่านเป็นนักศึกษา , เมื่อทำการลงทะเบียนขอให้เลือก 'เข้าสู่บทเรียน' จากนั้นจึงค่อยเลือกบทเรียนที่ต้องการต่อไป
สำหรับอาจารย์ ขอให้ลงทะเบียนก่อนเช่นกัน แต่ให้เลือก Action เป็น 'สร้างบทเรียน' จากนั้นท่านจะต้องกรอกข้อมูลชื่อบทเรียน รหัสวิชา และภาควิชา เมื่อทุกอย่างถูกต้อง โปรแกรมจะนำท่านเข้าสู่บทเรียนของท่าน ซึ่งท่านสามารถที่จะปรับปรุงหรือแก้ไขรุปแบบของบทเรียน ให้เหมาะสมได้ตามความต้องการ
การ Login
เมื่อท่านเข้าสู่บทเรียน ในครั้งต่อๆไป พิมพ์ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน จากนั้นคลิกปุ่ม 'ตกลง'ท่านก็จะสามารถเข้าสู่บทเรียนของท่านได้ทันที URL ของ web site นี้คือ"; $langHGroups = "กลุ่ม"; $langGroupsContent = "สารบัญกลุ่ม"; $langGuide = "คู่มือ"; ?>